กันแดดคุมมัน ฉบับผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย คนเป็นสิวใช้แล้ว ไม่อุดตัน แนะนำโดยเภสัชกร

Article Read Duration 10 min read

กันแดดคุมมัน เป็นตัวช่วยที่ดีอย่างยิ่งสำหรับป้องกันผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด โดยเฉพาะคนที่เป็นสิว หรือผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายยิ่งต้องใส่ใจการเลือกครีมกันแดดมากกว่าใคร ๆ เพราะหากใช้ครีมกันแดดธรรมดาทั่วไปที่มีความเหนียวเหนอะ อาจจะส่งผลให้รูขุมขนอุดตันจนกลายเป็นสิวเพิ่มขึ้นอีก แล้วคนที่เป็นสิวหรือผิวบอบบางต้องใช้ครีมกันแดดแบบไหนจึงจะสามารถควบคุมความมันได้ตลอดทั้งวัน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ปลอดภัยจากสารที่เสี่ยงทำให้เกิดการแพ้ และช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด UVA UVB สาเหตุปัญหา ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ใครที่ตามที่หากันแดดแบบนี้อยู่ วันนี้เรามีกันแดดที่ตอบโจทย์คนเป็นสิวที่แนะนำโดยเภสัชกร ถ้าอยากรู้ว่าจะมีคุณสมบัติเด็ด ๆ อะไรบ้างต้องตามมาดูกันเลย

กันแดดคุมมัน คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง?

ปัจจุบันมีการพัฒนาครีมกันแดดออกมาหลายสูตร เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป โดยกันแดดที่ช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันจะประกอบด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับความมันบนใบหน้าโดยเฉพาะ แต่ก่อนจะเลือกใช้กันแดดคุมมันสักตัว เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่ากันแดดประเภทนี้คืออะไร และเหมาะกับใครบ้าง

กันแดดคุมมัน คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ มีทั้งแบบดูดซับรังสี UV หรือสะท้อนรังสี UV กลับออกไป ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำลายจนไหม้หรือเกิดจุดด่างดำ รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง และสิ่งที่ทำให้กันแดดประเภทนี้มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากกันแดดทั่วไปคือ นอกจากจะป้องกันแสงแดดแล้ว ยังช่วยทำให้ใบหน้าดูไม่มันเยิ้ม คงความแมตต์และเมคอัพติดทนนาน ด้วยการดูดซับความมันส่วนเกิน อันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง

ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดความมันส่วนเกินนี้ จึงทำให้ครีมกันแดดประเภทนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้ามัน เป็นสิว มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย ไวต่อแดด เพราะเนื้อครีมจะมีลักษณะบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเร็ว ไม่อุดตันรูขุมขนจึงไม่ก่อให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น และปราศจากสารกระตุ้นการระคายเคือง

กันแดดคุมมันสำหรับผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย แตกต่างจากกันแดดทั่วไปอย่างไร

คุณสมบัติเด่นที่ทำให้กันแดดคุมมันสำหรับผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายแตกต่างจากกันแดดทั่วไป คือ เป็นกันแดดที่อ่อนโยน มีเนื้อบางเบา ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่หนักผิวและถูกคิดค้นขึ้นสำหรับผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่ายโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิวจนมั่นใจได้ว่าปลอดภัย สามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดสิว อีกทั้งมีประสิทธิภาพควบคุมความมันบนใบหน้าอันเป็นบ่อเกิดของปัญหาสิวใหม่ พร้อมทั้งปกป้องผิวบอบบางจากแสงแดดและมลภาวะ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีของผู้ที่มีปัญหาหนักใจเรื่องผิวมัน เป็นสิว ระคายเคืองง่าย ให้สามารถออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างมั่นใจ โดยที่ไม่ต้องกลัวผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด

เคล็ดลับ เลือกกันแดดคุมมันให้เหมาะกับสภาพผิว

ผิวหนังมี 4 ประเภท ได้แก่ ผิวแห้ง (Dry Skin) ผิวธรรมดา (Normal Skin) ผิวผสม (Combination Skin) และผิวมัน (Oily Skin) โดยแบ่งตามปริมาณความมันบนผิวหน้า โดยคนไทยส่วนใหญ่มีผิวประเภทผิวมัน และผิวผสม การรู้จักประเภทผิวของตนเองมีความสำคัญเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมกับประเภทผิวของตนเอง เช่น

ผู้ที่มีผิวแห้ง

สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หากใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวมัน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีสารที่ไปลดความมันบนผิว แต่ผิวแห้งที่มีปริมาณน้ำมันบนผิวที่น้อยอยู่แล้ว เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันก็จะยิ่งไปลดความมันบนผิว ส่งผลเสียต่อผิวแห้งอย่างชัดเจน

ผู้ที่ผิวบอบบาง

ผู้ที่ผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย จะใช้ครีมกันแดดสักหนึ่งชิ้นก็ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะในแต่ละวันผิวต้องเผชิญมลภาวะสารพัด ก็อาจถูกกระตุ้นให้ระคายเคืองแล้ว หากไม่เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวก็จะทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้นจนต้องมาฟื้นบำรุงกันอีกยาวแน่นอน ข้อแนะนำในการเลือกครีมกันแดดคุมมัน สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย คือ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผิว หรือเลือกจากแบรนด์เวชสำอางที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว ลดการระคายเคืองที่เกิดขึ้น และไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวเพิ่มขึ้น

ผิวมัน-ผิวผสม

ผิวมัน-ผิวผสม คือ ผิวที่มีน้ำมันเคลือบผิวอยู่ปริมาณมาก เนื่องมาจากต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ จึงสามารถผลิตนำมันได้เป็นปริมาณที่สูงในผู้ที่มีผิวมัน (Oily Skin) ส่วนผู้ที่มีผิวผสม (Combination Skin) พบว่าบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง (T-zone) มีปริมาณต่อมไขมันอยู่หนาแน่น ทำให้ใบหน้ามันเงาบริเวณนี้ แต่บริเวณข้างแก้มทั้งสองข้าง (U-zone) จะมีต่อมไขมันอยู่น้อย หรือมีขนาดเล็ก ปริมาณน้ำมันจึงมีน้อย ผิวจึงมีอาการแห้ง ระคายเคือง หรืออาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลเพิ่มความมันเงาบนผิว เช่น
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ไปใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง จึงส่งผลให้ผิวเพิ่มการผลิตน้ำมัน เพิ่มปริมาณน้ำมันบนผิวให้สูงมากขึ้น
  • การล้างหน้าหรือทำความสะอาดผิวหน้า (รวมถึงการสครับ) บ่อยเกินไป เพราะทุกครั้งที่ทำความสะอาดผิวหน้าจะมีการชะล้างเอาปริมาณน้ำมันบนผิวออกไป ซึ่งน่าจะดีสำหรับผู้ที่มีผิวมัน แต่หากทำบ่อยเกินไป พบว่าต่อมไขมันจะถูกกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายจะพบว่าใบหน้ามีความมันเงาเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม การทำความสะอาดผิวหน้าเพียงวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้า และก่อนนอน ก็เพียงพอแล้ว ด้วยกลไกเดียวกันสำหรับผู้ที่ใช้กระดาษซับมันบ่อยเกินไป ก็อาจพบว่าความมันบนใบหน้าเพิ่มกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
  • สิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศ พบว่าในช่วงฤดูร้อน (อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น) และมลภาวะ สามารถกระตุ้นให้ผิวมีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น เกินปัญหาใบหน้ามันเงาเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

การเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับผิวมัน-ผิวผสม

เคยมีแพทย์ผิวหนังท่านหนึ่งกล่าวว่าหลังการล้างหน้า หากให้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้เพียงชิ้นเดียวคุณหมอจะเลือกใช้ “ผลิตภัณฑ์กันแดด” (และคุณหมอแอบเพิ่มเติมว่าถ้าเลือกอีกชิ้นได้จะเลือกมอยซ์เจอไรเซอร์”) แน่นอนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก็ควรเลือกให้ตรงกับประเภทผิว คนส่วนใหญ่ที่มีผิวผสม-ผิวมัน ก็ต้องเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตรงกับประเภทผิวของตนเองด้วยเช่นกัน

คุณสมบัติผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับผิวมัน-ผิวผสม

1. คุณสมบัติการปกป้องที่ดี การปกป้องที่ดีของผลิตภัณฑ์กันแดด มีค่าการปกป้องที่สูงเพียงพอ โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมหรือวิถีการใช้ชีวิต หากต้องเผชิญแดดจัด เช่น มีกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกังวลเรื่องริ้วรอย และจุดด่างดำ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าการปกป้องสูง คือ SPF+ ขึ้นไป/PA++++/และค่า PPD ที่ยิ่งสูงก็จะยิ่งปกป้องรังสียูวีเอได้ดีมากขึ้น
  • การปกป้องผิวจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น รังสี Infrared, Visible light หรือแม้กระทั่งมลภาวะทางอากาศ (Air pollution) ที่รวมไปถึงฝุ่นละอองจิ๋ว (PM2.5) ที่ทั้งหมดนี้มีบททดสอบยืนยันแล้วว่าส่งผลต่อสุขภาพผิวได้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากปกป้องครอบคลุมปัจจัยดังกล่าวด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากปัจจัยทำร้ายผิว
  • ความคงตัวต่อแสงแดดของผลิตภัณฑ์ (Photostability) เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์กันแดดสามารถปกป้องผิวได้จริงแม้ในการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องเผชิญแสงแดดจัด กับค่า UV index ที่สูงจัดในประเทศของเรา เพราะหากค่าคงตัวต่อแสงแดดต่ำ เมื่อเผชิญกับแสงแดดจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการปกป้องผิวถูกทำลาย จนลดต่ำลง
  • คุณสมบัติการกันน้ำ (Water Resistant/ Very Water Resistant) กันเหงื่อ (Anti-sweat) ด้วยสภาวะอากาศที่ร้อนชื้น ทำให้เรามักมีเหงื่อ ซึ่งหากผลิตภัณฑ์กันแดดไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ ค่าการปกป้องผิวก็จะลดต่ำลง ประสิทธิภาพการปกป้องก็ลดน้อยลง
หากเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับผู้ที่มีผิวมัน-ผิวผสม ก็ควรมีสารที่ช่วยลดความมันบนผิวลงได้ ไม่ว่าจะเป็นสารที่ไปช่วยลดการผลิตน้ำมัน หรือสารที่ไปช่วยดูดซับความมันเงาบนผิว เป็นต้น

2. เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ดี บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว

เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการตัดสินใจเลือกซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดของผู้บริโภค ในด้านของการปกป้องที่สมบูรณ์แบบ นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีการปกป้องที่ดีแล้ว ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญในการปกป้องผิว ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะสม คือ 2 มิลลิกรัมต่อพื้นที่ผิว 1 ตารางเซนติเมตร (2 mg/cm2) หรือปริมาณ 2 ข้อนิ้ว (ปล้องนิ้วชี้) ทั้งนี้หากผลิตภัณฑ์กันแดดมีเนื้อสัมผัสไม่ดี (เหนียวเหนอะหนะ ทิ้งคราบขาว) ก็จะส่งผลให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ทำให้การปกป้องไม่เต็มประสิทธิภาพ

3. คุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มแพ้ ระคายเคืองง่าย (Sensitive Skin)
  • เป็นสูตรที่มีโอกาสเกิดอาการแพ้ต่ำ (Hypoallergenic) และไม่ทำให้อุดตัน (Non-comedogenic) เป็นสูตรอ่อนโยนปราศจากสารที่ผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย (Sensitive Skin) เช่น น้ำหอม ซิลิโคน สารกันเสีย เป็นต้น
  • ผ่านการทดสอบทดสอบกับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มแพ้ระคายเคืองง่าย (Sensitive skin) และทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
สำหรับสายรักษ์โลก การเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่ไม่ส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเล ไม่รบกวนกระบวนการฟอกสีของปะการัง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาร่วมด้วย เพราะผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดี คือ ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้ได้จริง ทาได้จริงในปริมาณที่เหมาะสม และต้องใช้เป็นประจำทุกวันในตอนเช้า แม้วันที่ไม่ได้ออกไปข้างนอกบ้าน เพราะนี่คือผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันการแก่ (ทั้งริ้วรอย และจุดด่างดำ) ที่ดีที่สุด

กันแดดคุมมัน ปกป้องดี หน้าไม่เยิ้ม แนะนำโดยเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ

ประวัติเภสัชกร


เภสัชกรหญิงลักษณา ทรัพย์ชูกุล


เภสัชกรหญิงลักษณา ทรัพย์ชูกุล
ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ลา โรช-โพเซย์

วุฒิการศึกษา
  • วิทยาศาตรบัณฑิต และวิทยาศาตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • เภสัชศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ประวัติการทำงาน
  • ประสบการณ์ด้านเครื่องมือแพทย์ (เครื่องเลเซอร์)
  • ประสบการณ์งานวิจัยการทดสอบทางคลินิกของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
  • ประสบการณ์ด้านผลิตภัณฑ์เวชสำอางมากกว่า 10 ปี

แนะนำกันแดดคุมมันจาก La Roche-Posay

ANTHELIOS UVMUNE 400 OIL CONTROL GEL-CREAM SPF 50+
กันแดดประสิทธิภาพการปกป้องสูง ครอบคลุมที่สุด เนื้อเจลครีม ผสาน Mexoryl 400 เทคโนโลยีล่าสุดของลา โรช-โพเซย์ ที่ให้การปกป้องได้เหนือกว่า พร้อมค่าปกป้อง SPF50+ และ PA++++ สามารถปกป้องผิวจาก UVA/UVB รวมถึง Ultra-Long ซึ่งอันตรายกว่าและสามารถทำร้ายผิวหนังได้ลึก พร้อมปกป้องผิวจากอินฟราเรด ฝุ่น มลภาวะ ผสาน AIRLICIUM™ ช่วยลดและดูดซับความมันส่วนเกิน ให้เนื้อสุดบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว สัมผัสสบายผิวไม่เหนอะหนะ

กันแดดคุมมัน กันน้ํา กันเหงื่อ


คุณสมบัติ

  • ผ่านการทดสอบบนผิวที่บอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย และผิวที่ไวต่อแสงแดด
  • เนื้อกันแดดบางเบา ซึมไว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันบนผิว
  • ผ่านการทดสอบภายใต้การกำกับของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
  • ผ่านการทดสอบการแพ้ ผู้ที่เป็นสิวสามารถใช้ได้
  • ปราศจากน้ำหอม และสารกระตุ้นการระคายเคืองอื่น ๆ
  • เป็นเวชสำอางที่แนะนำโดยเภสัชกร

วิธีการใช้กันแดดคุมมันในการดูแลผิวในช่วงหน้าร้อน

วิธีใช้กันแดดคุมกันในการดูแลผิวช่วงหน้าร้อน สามารถทำได้ดังนี้

เลือกกันแดดคุมมันที่เหมาะกับสภาพผิว

ก่อนเลือกซื้อกันแดดคุมมัน ควรพิจารณาสภาพผิวของตัวเองก่อน โดยคนที่มีผิวมันควรเลือกกันแดดคุมมันที่มีส่วนผสมของซิลิโคนหรือแร่ธาตุที่ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า คนที่มีผิวแห้งหรือผิวผสมควรเลือกกันแดดคุมมันที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์หรือสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

นอกจากนี้ ควรเลือกกันแดดคุมมันที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า และค่า PA++++ หรือมากกว่า เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทากันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที

เพื่อให้กันแดดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทากันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที เพื่อให้สารกันแดดซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่

ทากันแดดใหม่ทุก 2 ชั่วโมง

หากต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ควรทากันแดดใหม่ทุก 2 ชั่วโมง หรือหากเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ ควรทากันแดดใหม่ทันที

ใช้ปริมาณกันแดดที่เหมาะสม

ปริมาณกันแดดที่เพียงพอต่อการปกป้องผิวจากแสงแดด คือ ปริมาณเท่ากับ 2 ข้อนิ้วชี้

ทากันแดดให้ทั่วบริเวณใบหน้าและลำคอ

ไม่ควรลืมทากันแดดบริเวณหู จมูก ริมฝีปาก และคอ เพื่อปกป้องผิวบริเวณดังกล่าวจากแสงแดด

ข้อควรระวังในการใช้กันแดดคุมมัน สำหรับผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย

เมื่อทุกคนได้ทราบถึงคุณสมบัติพิเศษของครีมกันแดดคุมมันสำหรับผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่ายกันไปแล้ว ต่อจากนี้ทุกคนก็จะสามารถเลือกครีมกันแดดได้เหมาะกับผิวมากขึ้น และถึงแม้ว่าครีมกันแดดจะมอบคุณประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งานสำหรับผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย เพื่อให้สามารถใช้ครีมกันแดดอย่างถูกต้องและได้ประโยชน์มากที่สุด ดังนี้

ไม่ควรทาใกล้บริเวณดวงตา

การทาครีมกันแดดที่ใบหน้านั้นไม่ควรทาใกล้ดวงตาเกินไป แนะนำให้เว้นระยะห่างบริเวณผิวรอบดวงตา เพราะเวลาที่อยู่กลางแจ้งและเหงื่อออกมาก ๆ เหงื่ออาจจะละลายครีมกันแดดจนไหลมาเข้าตา สารที่อยู่ในครีมกันแดดอาจจะทำให้ดวงตาระคายเคืองและทำให้แสบตา หากต้องการป้องกันแสงแดดอย่างครอบคลุมบริเวณใบหน้า การใช้หมวกปีกกว้างป้องกันแสงแดดร่วมด้วยก็เป็นวิธีที่ดีไม่น้อย

ควรเลี่ยงกันแดดคุมมันที่มีส่วนผสมออกซีเบนโซน (Oxzbenzone)

ออกซีเบนโซน (Oxzbenzone) เป็นสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพในป้องกันแสงแดดต่ำ จึงต้องใช้ความเข้มข้นปริมาณมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องแสงแดด แต่ปัญหาของสารชนิดนี้ คือ เมื่อซึมซาบเข้าสู่ผิวแล้วอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ และมีแนวโน้มว่าการสะสมของออกซีเบนโซน อาจส่งผลต่อการยับยั้งฮอร์โมนบางชนิดในร่างกาย ก่อนซื้อกันแดดจึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออกซีเบนโซน

ไม่ควรทาปริมาณมากหรือหนาเกินไป

ปริมาณการทาครีมกันแดดตามมาตรฐานสากลที่จะทำให้ได้การป้องกันตาม SPF ที่เขียนบนฉลาก คือ ¼ ช้อนชา ปริมาณเท่ากับเหรียญ 10 บาท หรือ 2 ข้อนิ้ว ถ้าหากในวันที่ต้องออกแดดจัดควรทากันแดดซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมง จึงจะทำให้มีประสิทธิภาพกันแดดที่ดี สามารถปกป้องผิวเราให้ห่างไกลจากฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอย ไม่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง การทาครีมกันแดดปริมาณมากหรือหนาเกินไป จะส่งผลให้ครีมกันแดดซึมซาบได้ไม่ดีเท่าที่ควร และอาจเป็นคราบได้ ดังนั้นให้ใช้ตามปริมาณที่แนะนำจะดีที่สุด

สรุป

การทาครีมกันแดด ถือเป็นขั้นตอนการบำรุงผิวหน้าที่สำคัญมาก เพราะแสงแดดสามารถเข้ามาทำร้ายผิวของเราได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะออกไปข้างนอกหรือจะอยู่ในบ้านก็ตาม หากละเลยการทาครีมกันแดดไปนาน ๆ เข้า เมื่อเวลาล่วงเลยไปจะส่งผลอย่างชัดเจน คือ ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ทุกคนจึงควรทากันแดดเป็นประจำทุกวันให้เคยชินจนเป็นนิสัย ซึ่งครีมกันแดดคุมมันที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้เหมาะกับคนเป็นสิว ผิวบอบบาง และผิวหน้ามันเป็นพิเศษ เพราะเป็นกันแดดคุมมัน ไม่อุดตัน ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ และช่วยให้ผิวของคุณจะสวยกระจ่างใสแบบนี้ไปอีกนาน

อ้างอิงจาก

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5986265/