โบกมือลา ปัญหา “สิวอักเสบ” พร้อมรู้วิธีการรักษาฉบับเห็นผล

Article Read Duration 7 min read

เคยมั้ย? ที่ไม่อยากออกจากบ้านเพราะมีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นเด่นอยู่บนใบหน้า เคยมั้ย? ที่เอาแต่นั่งส่องกระจกเพราะคอยเช็กว่าเมื่อไหร่สิวจะยุบลง และเคยมั้ย? ที่หมดความมั่นใจไม่อยากจะมองหน้าใครไปซะเฉย ๆ ใครที่เคยเป็นสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ คงจะพอเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเรารู้สาเหตุและการป้องกันการเกิดสิวอักเสบ รวมไปถึงวิธีรักษาสิว ทั้งการรักษาสิวอุดตัน รักษาสิวผดให้หายขาด เราจะได้โบกมือลา ปัญหา “สิวอักเสบ” "สิวเห่อ"และไม่ต้องมานั่งกังวลอีกต่อไป

สิวอักเสบคืออะไร รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นสิวอักเสบ

สิวอักเสบ คือ สิวที่พัฒนาความรุนแรงมาจากสิวผดและสิวอุดตัน อาการอักเสบ (ปวด บวม แดง แสบ ร้อน) ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเป็นผลของการอักเสบที่เกิดจากการเสียสมดุลของแบคทีเรียบนผิว เมื่อไหร่ที่เราสัมผัสจุดบนผิวหน้าที่นูนขึ้นมาแล้วรู้สึกถึงความเจ็บปวด ให้รู้ไว้เลยว่าสิวอักเสบได้บุกมาถึงใบหน้าของเราเป็นที่เรียบร้อย สิวอักเสบโดยพื้นฐานแล้วจะมีลักษณะบวมนูนใหญ่และมีฐานสีแดง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
  • สิวตุ่มแดง
    มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก และรู้สึกเจ็บหากไปสัมผัส
  • สิวหัวหนอง
    มีขนาดใหญ่กว่าสิวตุ่มแดง ฐานบวมแดง และมีหัวหนองขาว
  • สิวหัวช้าง
    มีขนาดใหญ่และแข็ง ฝังลงไปลึกมากใต้ผิวหนัง
  • สิวซีสต์
    มีความคล้ายกับสิวหัวช้าง แต่จะมีหนองขนาดใหญ่ฝังอยู่ลึกใต้ผิวหนังและสร้างความเจ็บปวด
ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนต้องการรักษาสิวอักเสบอย่างถูกวิธี มิเช่นนั้น อาจทิ้งไว้ทั้งความเจ็บปวด รอยแผลเป็น และจุดด่างดำจากสิว ที่ทำให้เรายิ่งเครียดไปกว่าเดิม

สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ

สิวอักเสบนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้อย่างการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะเกิดในเพศหญิงช่วงมีประจำเดือน หรือระยะตั้งครรภ์ และมักพบในเพศชายเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หรือการส่งต่อทางกรรมพันธุ์ที่ถ้าใครมีพ่อแม่ที่เป็นสิวก็อาจถูกส่งต่อมายังผู้สืบสายเลือดได้ และปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมได้อย่างอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเราควรคอยสังเกตว่าอาหารชนิดไหนส่งผลให้เกิดปัญหาสิวขึ้นและควรหลีกเลี่ยง หรืออย่างรวมไปถึงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ที่ต้องคอยหมั่นเช็กเช่นกันว่าทำให้เกิดการแพ้หรือไม่และต้องหยุดใช้เมื่อทำให้เกิดการอักเสบของสิว

การป้องกันการเกิดสิวอักเสบ

งดการบีบ/แคะ/แกะ/กด สิว

การบีบ แคะ แกะ กดหรือสัมผัสบริเวณที่เป็นสิวล้วนแต่เป็นการเสี่ยงให้สิวยิ่งมีความอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียจากมือที่สกปรกของเรามากยิ่งขึ้น เพิ่มความรุนแรงของปัญหาสิวและยังมีโอกาสทิ้งรอยแผลเป็นและรอยสิวเอาไว้ให้เราช้ำใจต่ออีกด้วย

หลีกเลี่ยงแสงแดด

แสงแดดสามารถกระตุ้นให้ผิวของเราผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน้ำมันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว และแสงแดดยังสามารถทำให้รอยที่เกิดจากสิวเข้มมากขึ้นด้วย ดังนั้นทุกปัญหาผิว รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสิวจึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด และเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน และสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวมัน อาจเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่สามารถควบคุมความมันได้ เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติม

ดูแลความสะอาดผิวหน้า

หากมีการแต่งหน้า ต้องเพิ่มขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอางก่อนที่จะเข้าสู่การล้าง ทำความสะอาดผิวหน้า หลังครบขั้นตอนทำความสะอาดต้องแน่ใจว่าไม่มีสิ่งตกค้างที่จะไปอุดตันรูขุมขน และหากไม่ได้แต่งหน้า ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับปัญหาและสภาพผิว โดยการล้างหน้าเพียงวันละ 1-2 ครั้งเพียงพอแล้ว

ทานอาหารที่มีประโยชน์

หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารหวานจัดเพราะสามารถกระตุ้นการเกิดสิว หรืออาหารที่พบว่าอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสิว (ซึ่งขึ้นกับผิวแต่ละบุคคล) และหันมารับประทานผักและผลไม้ที่มีเส้นใยอาหาร วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์กับผิวทั้งสิ้น

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ และยังส่งผลให้ร่างกายของเรามีสุขภาพแข็งแรงด้วย

พักผ่อนให้เพียงพอ

ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละอย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง และควรนอนก่อน 22.00 น. ตั้งแต่ช่วงห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน เพื่อให้ร่างกายเรานอนหลับสนิททันช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่มีการหลั่ง Growth Hormone เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวนั่นเอง

รวมวิธีดูแลผิวที่มีปัญหาสิว**สิวเสี้ยน สิวอุดตัน

    1. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า
ปัญหา*สิวเสี้ยน สิวอุดตัน ดูแลได้ยังไง? ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าเนื้อเจลบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ เด็ดขาดกับสิว แต่อ่อนโยนกับผิวด้วยส่วนผสมที่สำคัญ LHA และซาลิไซลิก แอซิดที่ไปจัดการกับปัญหา*สิวเสี้ยน สิวอุดตันพร้อมกลีเซอรีนมาเติมเต็มความชุ่มชื้นแก่ผิว ผ่านการทดสอบกับผู้ที่มีผิวบอบบาง ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง ว่าสามารถใช้ได้ทั้งกับผิวหน้า และผิวกาย นอกจากนั้นยังเป็นสุตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอออล์ สารสบู่ และสารกันเสียกลุ่มพาราเบน และยังมีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว ไม่ทำลายสมดุลของผิว

คลีนเซอร์ จัดการปัญหาผิว รอยด่างดำและคุมความมันส่วนเกิน

    2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid
กรดซาลิไซลิคนั้นมีส่วนสำคัญในการช่วยสลายสิวอุดตันที่ต้นตอ ซึ่ง EFFACLAR SERUM เซรั่มสลายสิวอุดตันที่ต้นตอตัวนี้ก็มีส่วนผสมของ Salicylic Acid แล้วยังผสานด้วย LHA ที่ช่วยสลายสิวอุดตันบนชั้นผิว ผลัดเซลล์ผิว และ Glycolic Acid ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดปัญหาการเกิดสิว เด็ดขาดต่อปัญหาสิว* แถมยังอ่อนโยนเพราะปราศจากพาราเบน สูตรเฉพาะสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย


เซรั่มสลายสิวอุดตัน ที่จบต้นตอปัญหาสิว


    3. ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Non-Comedogenic
เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันบนผิว เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์แบบเนื้อครีม ดูแลปัญหาสิวซ้ำซาก *เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติลดเลือนรอยดำรอยแดงจากสิว ด้วยแรงบันดาลใจจากศาสตร์ Microbiome เพื่อลดการเกิด*สิวเสี้อน สิวอุดตัน แนะนำให้ทาเป็นประจำทุกเช้าอย่างต่อเนื่อง เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ใช้ร่วมกับ เอฟฟาคลาร์ เซรั่ม ที่ใช้ตอนกลางคืน เพื่อดูแลปัญหา*สิวเสี้อน สิวอุดตัน


เจลครีมลดรอยสิวที่ให้ความชุ่มชื้นและควบคุมความมัน