หลังจากนั้นไม่นาน “ไมโครคอมิโดน” การอุดตันขนาดเล็กใต้ผิวหนังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จะค่อย ๆ ถูกส่งขึ้นมาตามท่อรูขุมขนพร้อมกับการขยับตัวขึ้นมาตามกระบวนการสร้างเซลล์ผิว เข้าสู่กระบวนผลัดเซลล์ผิว ทำให้เกิดการอุดตันนูน ปูดขึ้นมาบริเวณรูขุมขน ทำให้ผิวหนังบริเวณ/ตำแหน่งที่เป็นรูขุมขนไม่เรียบเนียน แต่หากไปสัมผัสโดนจะไม่พบอาการเจ็บใด ๆ ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นอาการของ “สิวอุดตัน (Comedones)” แล้วหากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ก็จะพัฒนาเปลี่ยนเป็น “สิวอักเสบ (Inflammation acne)” ต่อมาก็จะกลายเป็นรอยแดง และจากรอยแดงกลายเป็นรอยดำสิว ตามลำดับ
จะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นของทุกปัญหาสิวเกิดจากการอุดตันใต้ผิวที่เรียกว่า “ไมโครคอมิโดน” นั่นเอง ดังนั้นหากต้องการแก้ไขปัญหาสิวก็ควรต้องแก้ไขที่ต้นตอของวงจรสิว ซึ่งก็คือการจัดการกับ “ไมโครคอมิโดน” ก่อนนั่นเอง
นอกจากจัดการกับไมโครคอมิโดนแล้วนั้น ควรพิจารณาร่วมกับการดูแลแก้ปัญหาที่สาเหตุหลักของการเกิดสิวร่วมด้วย โดย 4 สาเหตุหลัก (ทางการแพทย์) ของการเกิดสิว พร้อมสารสำคัญที่มักพบหรือใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมรักษาสิว รวมไปถึงรอยสิวก็มักจะมีสารสำคัญที่มีกลไกการออกฤทธิ์เพื่อแก้ปัญหาที่สาเหตุการเกิดสิวนั่นเอง โดยหากสารสำคัญในครีมรักษาสิวมีคุณสมบัติที่แก้ปัญหาสิวที่ครบถ้วนกว่า ก็น่าจะช่วยให้ผลของการแก้ปัญหาสิวเห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็วกว่า
4 สาหตุหลักของการเกิดสิว
ตารางแสดง 4 สาเหตุสำคัญของการเกิดสิว และกลไกการออกฤทธิ์ของสารสำคัญในผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาสิว เพื่อการดูแลปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4 สาเหตุสำคัญของการเกิดสิว |
กลไกการออกฤทธิ์ของสาร |
ตัวอย่างสารสำคัญ |
1 การผลิตน้ำมันมากผิดปกติ |
ลดการผลิตน้ำมัน |
Zinc |
2 การแบ่งเซลล์ผิวมากผิดปกติ |
ผลัดเซลล์ผิวที่อุดตัน |
Salicylic acid, glycolic acid, Lipohydroxy acid (LHA) |
3 การอักเสบ |
ลดการอักเสบ |
Niacinamide |
4 ติดเชื้อแบคทีเรีย และเสียสมดุลแบคทีเรียบนผิว |
ต้านเชื้อแบคทีเรีย + ปรับสมดุลแบคทีเรียบนผิว |
Piroctone olamine, Aqua Posae Filiformis (APF) |
3 ขั้นตอนการดูแลผิวให้ห่างไกลจากปัญหาสิว
เมื่อทราบถึงสารสำคัญที่มีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาสิวแล้ว ต่อมาก็ควรพิจารณาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญดังกล่าว โดยพิจารณาเลือกใช้ให้ครบ 3 ขั้นตอนหลักในการแก้ปัญหาสิว ได้แก่
1. ขั้นตอนทำความสะอาด
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ดีควรมีคุณสมบัติพื้นฐานคือการทำความสะอาดอย่างหมดจดและอ่อนโยน โดยควรมีค่า pH ของผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกับผิว (Physiological pH) ปราศจากสารสบู่และสารทำความสะอาดที่ไม่อ่อนโยน เช่น Sodium lauryl Sulfate (SLS) โดยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอาจเลือกสูตรที่มีสารสำคัญเพิ่มเติมอย่าง สารช่วยลดความมัน เช่น ซิงค์ หรือสารที่ช่วยลดปัญหาสิว เช่น ซาลิไซลิก แอซิด
2. ขั้นตอนการบำรุง และแก้ปัญหาสิว
ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลปัญหาสิวโดยเฉพาะ โดยพิจารณาจากองค์ประกอบของสารสำคัญในผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณสมบัติ ช่วยแก้ปัญหาสิว เช่น ซิงค์ ซาลิไซลิก แอซิด ไนอะซินาไมด์ โดยผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนการบำรุงมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาสิวเป็นอย่างมาก แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความหวังหลักในขั้นตอนการแก้ปัญหาสิวเลยทีเดียว
ในขั้นตอนนี้อาจแบ่งผลิตภัณฑ์ได้เป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ เซรั่มลดสิว ที่มีสารสำคัญในความเข้มข้นที่สูงกว่า และมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เน้นคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นร่วมด้วย เพราะความชุ่มชื้นเป็นพื้นฐานสำคัญของการแก้ปัญหาผิวทุกประเภท ลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนการบำรุงควรเริ่มต้นจาก
- ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดสิว ซึ่งมักจะมีสารสำคัญที่แก้ปัญหาสิวเข้มข้นกว่า หรือเน้นการทำงานเพื่อการแก้ปัญหาสิว เช่น สารสำคัญที่ช่วยในการแก้ปัญหาสิวอุดตันตั้งแต่อยู่ใต้ผิวที่เรียกว่า “ไมโครคอมิโดน (Micro-comedone)” จุดเริ่มต้นของวงจรสิว ก็น่าจะเป็นอีกคุณสมบัติหลักที่น่าสนใจ โดยผลิตภัณฑ์เซรั่มลดสิวมักจะมีปริมาณสารที่ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวที่เข้มข้นกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปจึงจะสามารถสลายการอุดตันตั้งแต่ต้นตอได้
- ผลิตภัณฑ์มอยซ์เจอไรเซอร์ ที่นอกจากคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวแล้ว ควรต้องมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาสิวอื่น ๆ ซึ่งหากมีกลไกการออกฤทธิ์ที่จัดการกับสาเหตุหลักของการเกิดสิวได้มากกว่า ก็มักจะให้ประสิทธิภาพ หรือเห็นผลได้ชัดเจนมากกว่า โดยเฉพาะคุณสมบัติการปรับสมดุลไมโครไบโอมบนผิว อีกสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว ที่ยังไม่ค่อยมีแพร่หลายนักในผลิตภัณฑ์รักษาสิว
หลักสำคัญในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาสิวในขั้นตอนการบำรุงนี้คือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ หรือครีมรักษาสิวที่มีสารสำคัญที่มีกลไกการออกฤทธิ์ทั้ง 4 สาเหตุหลักของการเกิดสิว รวมไปถึงหากมีกลไกที่สามารถแก้ไขที่ต้นตอของวงจรสิว “ไมโครคอมิโดน” ก็จะยิ่งทำให้เห็นผลการรักษาได้เร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ทั้งผลิตภัณฑ์เซรั่มลดสิว และ มอยซ์เจอไรเซอร์ร่วมกัน
หากต้องใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มลดสิว และ มอยซ์เจอไรเซอร์ร่วมกันในเวลาเดียวกัน แนะนำให้ทาเซรั่มลดสิว ที่มีสารสำคัญที่เข้มข้นกว่า และมักจะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางเบากว่า ทาลงบนผิวหน้าก่อนการใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ นอกจากเหตุผลที่เซรั่มเข้มข้นกว่า เนื้อบางเบากว่าแล้ว มอยซ์เจอไรเซอร์ยังมีอีกหน้าที่คือการเพิ่มความชุ่มชื้นคืนสู่ผิว ทำให้มักจะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ข้นกว่า แต่ไม่ควรเหนียวเหนอะ เพื่อการเติมความชุ่มชื้นคืนสู่ผิว จึงเหมาะที่จะลงภายหลังการใช้เซรั่มลดสิว เพื่อให้เซรั่มลงสู่ผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ทาภายหลังก็จะได้ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิวได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
การปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด
เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นตัวกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสิว และแสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รอยสิวเข้มมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวมัน จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด นอกจากการปกป้องแล้วผลิตภัณฑ์กันแดดยังช่วยดูแลปัญหาสิวได้ด้วย เช่น ลดปัจจัยกระตุ้นการผลิตน้ำมัน แก้ปัญหาความมันส่วนเกิน ลดปัญหาสิว และช่วยให้รอยสิวต่าง ๆ ดูจางลงไปด้วย โดยเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
- ปกป้องได้ดีทั้งรังสียูวี และปัจจัยอื่นๆ เช่นรังสีความร้อน (อินฟราเรด) มลภาวะที่ล้วนส่งผลให้เกิดปัญหาสิว
- เป็นสูตรที่ไม่ทำให้อุดตัน (Non-comedogenic)
- เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว
- มีคุณสมบัติกันน้ำ (Very Water Resistant) กันเหงื่อ เพื่อให้เหมาะกับกิจกรรมของคุณผู้ชาย เช่นไม่แสบตาแม้เหงื่อเข้าตา ขณะออกกำลังกาย
สรุป
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยทำให้การแก้ปัญหาสิวได้ผลดีที่สุดคือการลดหรือเลี่ยงสาเหตุของการเกิดสิว เช่นเดียวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิว หรือครีมรักษาสิวก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่ออกฤทธิ์ที่สาเหตุหลักสำคัญของการเกิดสิว รวมไปถึงต้นตอของการเกิดสิวด้วยเช่นกัน นี่คือหลักสำคัญพื้นฐานเพื่อการลองถูกในการแก้ปัญหาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
References:
- Saurat, J.H., Strategic Targets in Acne: The Comedone Switch in Question. Dermatology, 2015. 231(2): p. 105-11.
- Muguet Guenot L, et al. Int J Dermatol 2018;57:278-283.