การทำงานที่ผิดปกติของเกราะป้องกันผิว:
เมื่อเกราะป้องกันผิวเริ่มทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ

Article Read Duration 3 min read

ผิวบอบบางแพ้ง่าย ไวต่อการระคายเคืองและผิวที่หยาบกร้านมักแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ผิดปกติของเกราะป้องกันผิว อีกนัยหนึ่งคือ ผิวไม่ได้รับการปกป้องจากสิ่งแวดล้อมมากเท่าที่ควร ซึ่งนั่นหมายความว่า ผิวไม่สามารถทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกได้อย่างเต็มที่ ยิ่งผิวระคายเคืองมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งพบความแห้งกร้านบนผิวมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ผิวเริ่มเข้าสู่วงจรความบอบบางและความระคายเคือง

แบคทีเรียสามารถทำลาย
วงจรความบอบบางของผิวได้หรือไม่?

จากงานวิจัยล่าสุดที่เจาะลึกไปที่เรื่องไมโครไบโอม (microbiome) นั่นคือ จำนวนของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนผิวของคุณ ทำให้เกิดแนวคิดเกี่ยวกับหน้าที่ของเกราะป้องกันผิวซึ่งต้องได้รับการทบทวนขึ้นใหม่ เพราะอะไรกัน?

  • เมื่อเกราะป้องกันผิวเริ่มทำงานผิดปกติ อาจก่อให้เกิดความไม่สมดุลกันของจุลินทรีย์นานาชนิดที่แตกต่างกันบนผิวชั้นบนของคุณ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือผิวที่ร่วงโรยและบอบบาง
  • เมื่อมีแบคทีเรียบนผิวที่หลากหลายมากขึ้น ผิวก็จะกลับมามีสภาพที่ดีขึ้นอีกครั้ง

มอยส์เจอไรเซอร์แบบ “ธรรมดา” ดั้งเดิมนั้นค่อนข้างจะล้าสมัยแล้วในทุกวันนี้ เพื่อบรรเทาสัญญาณของความไวของผิวและฟื้นบำรุงสุขภาพที่ดีให้กับผิว มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพต้องทำงานกับปราการทั้งสองด่านของผิว นั่นคือ ชั้นลิพิดที่ล้ำค่าและชั้นไมโครไบโอม (microbiome) ที่แสนบอบบาง

ผิวและแบคทีเรีย:
สร้างมาเพื่อคู่กัน

ผิวอยู่ในสภาวะที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน (แบบวิน-วิน หรือได้ประโยขน์ทั้งสองฝ่าย) กับไมโครไบโอม (microbiome) ที่อาศัยอยู่

  • ความสมดุลระหว่างแบคทีเรียสายพันธุ์ต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็นต่อผิว แบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์ต่อเราจะกันแบคทีเรียชนิดที่ทำให้ติดเชื้อออกไป
  • แบคทีเรียและผิวจะ “ทำงานร่วมกัน” อย่างสม่ำเสมอเพื่อปลอบประโลมผิว

พูดง่ายๆ คือ แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์จะ “เป็นเกราะป้องกันผิว” และช่วยให้ผิวหลุดพ้นจากวงจรความบกพร่องของความแห้งกร้านและ “ระคายเคือง”

แล้วแบคทีเรียชนิดไหนที่เป็นประโยชน์
และชนิดไหนที่เป็นศัตรูตัวฉกาจ?

เมื่อพูดถึงการฟูมฟักไมโครไบโอม (microbiome) ที่เป็นประโยชน์ สาระสำคัญของมันก็คือ ความหลากหลาย ทุกตารางเซนติเมตรบนผิวนั้นเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับไมโครไบโอม (microbiome) จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งพันล้านตัว และยิ่งคุณมีแบคทีเรียหลากหลายชนิดบนผิวมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ผิวของคุณมีสุขภาพดีขึ้นเท่านั้น 1,000,000,000,000 – หนึ่งล้านล้าน – คือจำนวนของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่บนผิวของมนุษย์… ซึ่งมากกว่าจำนวนดวงดาวในทางช้างเผือกถึง 10 เท่า! ถึงอย่างนั้นก็ตาม แบคทีเรียบางชนิดก็ไม่ได้ “เป็นประโยชน์” ต่อผิวเสมอไป เพราะแบคทีเรียบางชนิดสามารถทำลายลิพิดชั้นนอกของผิว ตลอดจนก่อให้เกิดอาการอักเสบบนผิวได้ โชคดีที่เรามีไมโครไบโอม (microbiome) ของเราที่คอยช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียภายในผิว!

พรีไบโอติกจะเป็น
สกินแคร์แห่งอนาคตการดูแลผิวได้ไหม?

พรีไบโอติก คือส่วนผสมอาหารที่ย่อยไม่ได้ที่คอยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่มีคุณประโยชน์ในลำไส้ ผิวสุขภาพดีคือ “อาหารเพาะเชื้อ” ที่สมบูรณ์แบบสำหรับแบคทีเรียที่มีคุณประโยชน์ มันทั้งอบอุ่น ชุ่มชื้น และอุดมไปด้วยสารอาหาร แต่ในบางครั้ง พรีไบโอติกก็ยังต้องการตัวช่วยเพื่อให้กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความเอื้อต่อไมโครไบโอม (microbiome) ของคุณ…

สิ่งกระตุ้นแบคทีเรีย
ที่ "เป็นประโยชน์" 3 อันดับแรก

  • ความชุ่มชื้น ยิ่งผิวแห้งขึ้น ความสามารถในการอาศัยอยู่บนผิวของสิ่งมีชีวิตก็จะยิ่งน้อยลง
  • สารอาหาร: แร่ธาตุที่หลากหลายและแร่ธาตุที่จำเป็นสามารถผลักดันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีคุณประโยชน์ได้
  • แหล่งของคาร์บอนและไนไตรเจน เช่น เซราไมด์-3.8
  • Aqua Posae Filiformis: ส่วนผสมตามธรรมชาติที่คิดค้นสูตรขึ้นเพื่อช่วยปรับสมดุลให้กับไมโครไบโอม (microbiome)

ในทุกๆ วัน ผิวอาจถูกทำร้ายจากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่สามารถปรับเปลี่ยนสมดุลของไมโครไบโอมได้ ผลลัพธ์? ผิวกลับแห้งกร้าน ระคายเคือง มีความไวต่อการระคายเคืองยิ่งขึ้น... แต่งานวิจัยขั้นสูงที่เจาะลึกไปที่ไมโครไบโอม (microbiome) ได้ค้นพบกุญแจที่จะนำไปสู่ยุคใหม่ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรีไบโอติก ด้วยการผลักดันความหลากหลายทางชีวภาพบนผิวหนัง นวัตกรรมในการกระตุ้นจุลินทรีย์เหล่านี้อาจเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ที่ผิวของคุณเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อ้างอิงถึงในบทความนี้อิงตามบทความเรื่อง "The Role of Cutaneous Microbiota Harmony in Maintaining a Functional Skin Barrier" โดย H. Baldwin และอื่นๆ ที่เผยแพร่ไว้ในวารสาร Journal of Drugs in Dermatology ในปี 2017

1 Willis CM, Shaw S, de La Charrière O, et al Sensitive skin: an epidemiological study Br J Dermatol 2001;145:258-63.
did you know

รู้หรือไม่?

DidYouKnow_Desktop_1

2 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งอาจได้รับผลข้างเคียงกับผิว ลา โรช-โพเซย์ มอบแนวทางการแก้ไขเชิงเวชสำอางที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าบอบบางต่อผิวแม้ต้องเข้าบำบัดรักษาโรคมะเร็ง

ความมุ่งมั่น
ด้านความปลอดภัยของเรา

มาตรฐานด้านความปลอดภัยที่นอกเหนือไปจากระเบียบข้อบังคับว่าด้วยเครื่องสำอางสากล

laroche posay safety commitment product allergy tested model close up

ผลิตภัณฑ์ 100%
ผ่านการทดสอบอาการแพ้

See More
ข้อกำหนดเบื้องต้นอันดับแรก = ไม่มีอาการแพ้
หากเราตรวจพบกรณีที่มีอาการแพ้เพียงกรณีเดียว เราก็จะกลับไปที่ห้องปฏิบัติการและเริ่มคิดค้นสูตรใหม่
laroche posay safety commitment essential active dose product head

แค่ส่วนประกอบที่สำคัญ
ในปริมาณของการออกฤทธิ์ที่เหมาะสม

See More
ผลิตภัณฑ์ของเราประกอบด้วยส่วนผสมที่จำเป็นเท่านั้น และมีปริมาณของสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสม โดยได้รับการพัฒนาจากความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและนักพิษวิทยา
อบสนองความต้องการของ ผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

ทดสอบแล้ว
บนผิวที่บอบบางมาก

See More
ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการพิสูจน์และยืนยันแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางมาก: ไวต่ออาการแพ้, ผิวแพ้, มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย, ผิวหนังอักเสบ หรืออ่อนแอจากการรักษาโรคมะเร็ง
laroche posay safety commitment formula protection product head

การป้องกันสูตร
เมื่อเวลาผ่านไป

See More
เราคัดสรรบรรจุภัณฑ์ที่ให้การป้องกันที่ดีที่สุดซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้สารกันเสียตามความจำเป็นเท่านั้น เพื่อรับประกันได้ถึงความคงสภาพของสูตรและประสิทธิภาพให้คงเดิมตลอดเวลา