สาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน
การอุดตันเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก- การแบ่งเซลล์ผิวที่มากผิดปกติที่เกิดจากกรรมพันธุ์ หรือการผลัดเซลล์ผิวที่ช้ากว่าปกติ เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับประเภทและปัญหาผิว เช่น มีผิวมัน และมีปัญหาสิว แต่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวแห้งก็จะยิ่งไปเพิ่มการสร้างน้ำมันบนผิว ส่งผลให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น
- การผลิตน้ำมันผิดปกติ ทั้งการผลิตน้ำมันที่มากผิดปกติ หรือน้ำมันที่ผลิตได้มีองค์ประกอบที่ผิดปกติไป อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การล้างหน้ารุนแรงเกินไปหรือบ่อยเกินไป การพักผ่อน ความเครียด การกินอาหารที่ไม่เหมาะสม ล้วนส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่สามารถกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น รวมถึงแสงแดดที่สามารถกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาสิวอุดตันเพิ่มมากขึ้น
ความสำคัญของกันแดด
หลายคนที่มีปัญหาสิว หรือมีความกังวลเรื่องความมันเงาบนใบหน้า จึงมักปฏิเสธการใช้ครีมกันแดดเพราะกลัวเรื่องการอุดตัน หน้าวอก หรือหากผิวมันมาก ๆ ก็จะรู้สึกว่าครีมกันแดดมักไม่ติดผิว จึงมองข้ามความสำคัญของการใช้ครีมกันแดด ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เกิดปัญหาสิวและผิวมันเพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้รังสียูวีเอจากแสงแดดยังกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของผิวหนังเป็นลักษณะของสิวผดเม็ดเล็ก ๆ ที่มักพบในช่วงที่อากาศร้อน แดดจัด หรือเหงื่อออกมากผิดปกติ ซึ่งหากหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด อาการของสิวผดนี้ก็อาจจะหายไปได้เองด้วยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างไรไม่ให้เกิดสิวอุดตัน สิวผด
1. ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสูตรที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)2. การปกป้องครอบคลุม
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่มีคุณสมบัติการปกป้องที่ดี เพราะแสงแดดโดยเฉพาะรังสียูวีเอ (UVA) สามารถกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น เกิดปัญหาสิวอุดตัน และส่งผลให้ผิวหนังทำงานผิดปกติ เกิดปัญหาสิวผดได้- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่สามารถปกปองผิวจากรังสียูวีทั้งยูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) ได้อย่างครอบคลุมทุกช่วงความยาวของรังสียูวี (290-400 นาโนเมตร)
- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่มีค่าการปกป้องสูงคือ SPF50+ขึ้นไป /PA++++/ และค่า PPD ที่ยิ่งสูงก็จะยิ่งปกป้องรังสียูวีเอได้ดีมากขึ้น
- การปกป้องผิวจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น รังสีอินฟราเรด (Infrared) หรือแม้กระทั่งมลภาวะทางอากาศ (Air pollution) ที่รวมไปถึงฝุ่นละอองจิ๋ว (PM2.5) ที่ทั้งหมดมีบททดสอบยืนยันแล้วว่าส่งผลต่อสุขภาพผิวได้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากปกป้องครอบคลุมปัจจัยดังกล่าวด้วยก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากปัจจัยทำร้ายผิว
- ความคงตัวต่อแสงแดดของผลิตภัณฑ์ (Photostability) เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสามารถปกป้องผิวได้จริงแม้ในการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องเผชิญแสงแดดจัด กับค่า UV index ที่สูงจัดในประเทศของเรา เพราหากค่าคงตัวต่อแสงแดดต่ำ เมื่อเผชิญกับแสงแดดจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการปกป้องผิวถูกทำลาย จนลดต่ำลง
- มีคุณสมบัติการกันน้ำ (Water Resistant/ Very Water Resistant) กันเหงื่อ (Anti-sweat) ด้วยสภาวะอากาศที่ร้อนชื้น ทำให้เรามักมีเหงื่อ ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดไม่คุณสมบัติเหล่านี้ค่าการปกป้องผิวก็จะลดต่ำลง ประสิทธิภาพการปกป้องก็ลดน้อยลง
3. ควบคุมความมัน
ผลิตภัณฑ์กันแดดคุมมัน สำหรับผู้ที่มีผิวมัน-ผิวผสม ควรมีสารสำคัญเพื่อไปช่วยลดปัญหาของผู้ที่มีผิวมัน เช่น- สารช่วยลดความมันบนผิวได้ หรือไปช่วยลดการผลิตน้ำมัน เช่น ซิงค์
- สารที่ไปช่วยดูดซับความมันเงาบนผิว
- สารที่ช่วยลดปัญหาสิว เช่น แก้ปัญหาการแบ่งเซลล์ผิวมากผิดปกติ กลไกการอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทเรีย เป็นต้น
- สารหรือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเกาะติดบนผิวได้ดี เนื่องจากผุ้ที่มีผิวมันมักมีความรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดหรือเมคอัพมักไม่ค่อยเกาะติดบนผิวที่มัน หรือหลุดลอกออกจากใบหน้าง่ายกว่าผิวประเภทอื่น
4. เนื้อสัมผัสบางเบา
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่มีเนื้อสัมผัสที่ดี บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว เพราะผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ดีที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่สามารถใช้ได้จริง ทาในปริมาณที่ถูกต้องได้จริง ๆ ดังนั้นเนื้อผลิตภัณฑ์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากนอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่มีการปกป้องที่ดีแล้ว ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญในการปกป้องผิว ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่เหมาะสม คือ 2 มิลลิกรัมต่อพื้นที่ผิว 1 ตารางเซนติเมตร (2 mg/cm2) หรือปริมาณ 2 ข้อนิ้ว (ปล้องนิ้วชี้) ทั้งนี้หากผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดมีเนื้อสัมผัสไม่ดี (เหนียวเหนอะหนะ ทิ้งคราบขาว) ก็จะส่งผลให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ทำให้การปกป้องไม่เต็มประสิทธิภาพ
5. ผ่านการทดสอบสำหรับผิวบอบบาง
คุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย (Sensitive Skin) โดยเป็นสูตรที่ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีโอกาสเกิดอาการระคายเคืองต่ำ (Hypoallergenic) และผ่านการทดสอบทดสอบกับผู้ที่มีผิวบอบบาง มีแนวโน้มการระคายเคืองง่าย (Sensitive skin) และทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น สำหรับสายรักษ์โลกการเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ไม่ส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเล ไม่รบกวนกระบวนการฟอกสีของปะการัง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาร่วมด้วย