แสงแดดอันตรายต่อผิวอย่างไร และการทาครีมกันแดดสำคัญอย่างไร

Article Read Duration 7 min read



หลาย ๆ คนคงเคยตั้งคำถามหรือได้ยินคำถามทั้งสองคำถามนี้ เคยมีคำกล่าวจากแพทย์ผิวหนังท่านหนึ่งว่า “หากจะลงทุนในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวซักชิ้น ให้ลงทุนที่ผลิตภัณฑ์กันแดด” หรือ ”หากตอนเช้าให้แพทย์ผิวหนังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้เพียงชิ้นเดียว 100% ของแพทย์ผิวหนังจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างแน่นอน” คำตอบนี้คงเป็นการทำให้เห็นหรือตระหนักถึงความสำคัญของการทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดเป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่สำคัญและจำเป็นสำหรับทุกประเภทผิว โดยผิวมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม รวมถึงผิวมัน และจำเป็นสำหรับทุกปัญหาผิวด้วย ไม่ว่าคุณจะมีประเภทผิวแบบใด ปัญหาผิวแบบฝ้า กระ จุกด่างดำ ริ้วรอย ผิวขาดน้ำ รวมไปถึงปัญหาสิว “ผลิตภัณฑ์กันแดด” ก็ยังคงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้เป็นประจำทุกเช้า การมีผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดช่วยคุมมันเข้ามาช่วยเหมาะกับคนมีผิวมัน

โดยรังสียูวีจากดวงอาทิตย์จะมี 3 ชนิด คือ รังสียูวีเอ ยูวีบี และยูวีซี แต่ปัจจุบันชั้นบรรยากาศของโลกเรายังสามารถป้องกันไม่ให้รังสียูวีซี (UVC) ผ่านลงมายังโลกของเรา ดังนั้น ณ ปัจจุบันบนโลกของเราจึงมีเพียงรังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) เท่านั้น โดยรังสียูวีจากดวงอาทิตย์คิดเป็น 7% ของรังสีทั้งหมดจากดวงอาทิตย์ และจากรังสียูวีทั้งหมดพบว่าจะเป็นรังสียูวีเอสูงถึง 95% และเป็นรังสียูวีบีเพียง 5% เท่านั้น

ความต่างของรังสียูวีเอและยูวีบี คืออะไร

ความต่างของรังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) มีดังนี้
  • รังสียูวีเอ (UVA) : มีปริมาณสูงตลอดทั้งวัน ทุกฤดู สามารถผ่านเมฆ/ผ่านกระจกเข้ามาทำร้ายผิวได้ และขณะที่ผิวเราโดนรังสียูวีเอทำร้ายอยู่เราจะไม่รู้สึกใดๆ เลย
  • รังสียูวีบี (UVB) : จะมีปริมาณสูงในช่วงเวลาประมาณ 10.00-15.00 น. มีปริมาณสูงเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อน แต่ไม่สามารถผ่านเมฆ/ผ่านกระจกเข้ามาทำร้ายผิวได้ และในขณะที่ผิวเราโดนรังสียูวีบีทำร้าย ผิวเราจะมีอาการแสบแดงไหม้
ผลกระทบของรังสียูวีต่อผิว อาจจำง่ายๆ คือ รังสียูวีเอ (UVA) จะทำให้เกิดปัญหาเรื่อง Aging ได้แก่ปัญหาริ้วรอย และจุดด่างดำ & Allergy ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด โดยรังสียูวีเอที่สามารถผ่านกระจกได้ ก็ย่อมสามารถผ่านเข้าไปทำร้ายผิวของเราได้ด้วยเช่นกัน เช่น
  • ไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ให้มีการผลิตเม็ดสี (เมลานิน, Melanin) เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหา “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” สีผิวไม่สม่ำเสมอ และยังทำให้รอยดำจากสิวเข้มขึ้นด้วย
  • ผ่านเข้าไปสู่ผิวหนังชั้นหนังแท้ ทำลายคอลลาดจน อิลาสติน ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย
  • นอกจากนี้รังสียูวียังสามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของน้ำมันนี้ เป็นอีกสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว มีข้อมูลการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเพียง 1 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ผิวมีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นถึง 10%(1)
ส่วนอีกประเภทคือรังสียูวีบี (UVB) ที่จะทำให้ผิวเกิดอาการแสบแดงไหม้ (Burn) นั่นเอง และรังสีทั้งสองประเภทเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง

อาจกล่าวได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำที่ดีที่สุด คือผลิตภัณฑ์กันแดด ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดคุมมันจึงมีความสำคัญที่จะต้องเลือกสรรอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยผลิตภัณฑ์กันแดดที่จำหน่ายในท้องตลาดทุกวันนี้ อาจมีคุณสมบัตินอกเหนือจากการปกป้องรังสียูวีเพิ่มเติมที่น่าสนใจ เช่น การปกป้องผิวจากมลภาวะ หรือรวมไปถึงคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อเสริมการปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่นคุณสมบัติการกันน้ำ กันเหงื่อ หรือกันทรายไม่ให้มาครูดเอาฟิล์มกันแดดให้หลุดออกจากผิว เป็นต้น

หลักการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดเบื้องต้น มีอะไรบ้าง

หลักการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดเบื้องต้น อาจพิจารณาได้จากคุณสมบัติดังนี้


เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้อง

เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้อง ปกป้องได้ดีทั้งรังยูวีเอและบีอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะรังสียูวีเอที่ความยาวคลื่นท้ายๆ 380-400 นาโนเมตร (Ultra Long UVA) ที่สามารถลงไปทำร้ายผิวได้ลึกกว่า น้ำไปสู่ปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ รวมไปถึงภูมิคุ้มกันของผิวที่ลดลง ทำให้ผิวอ่อนแอลง

ปัจจุบันมีไม่กี่สารกันแดดที่สามารถปกป้องค่าของรังสียูวีในช่วงนี้ Ultra Long UVA นี้ได้ ดังนั้นนอกจากพิจารณาค่าการปกป้องโดยแนะนำที่ SPF30/PA+++ ขึ้นไป แต่หากกังวลเกี่ยวกับปัญหาริ้วรอยและจุดด่างดำ แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าการปกป้อง SPF50+/PA++++ ก็อาจต้องพิจารณาถึงสารกันแดดที่ปกป้องได้ครอบคลุมทุกช่วงของรังสียูวีร่วมด้วย


ควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะกับประเภทหรือปัญหาผิว

เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะกับประเภทหรือปัญหาผิว โดยเลือกจากการระบุที่ผลิตภัณฑ์ว่าเหมาะกับผิวประเภทใด หรืออาจพิจารณาจากสารสำคัญในผลิตภัณฑ์กันแดด เช่น
  • ผิวมันหรือผิวผสม : ควรเลือกพิจารณาผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีสารช่วยลดความมัน เช่น ซิงค์ แอร์ลิเซียมหรือสารประเภทบิกซ์ แอคทิฟ™ ที่ช่วยลดความมันและช่วยลดปัญหาสิว ที่มักพบในผู้ที่มีผิวมัน-ผิวผสม
  • ผิวแห้ง : ควรมองหาสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เช่น กลีเซอรีน เป็นต้น
อีกสิ่งสำคัญในการแก้ไขทุกๆ ปัญหาผิวคือการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไขปัญหานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิว ริ้วรอย หรือจุดด่างดำ แสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดคสามรุนแรงขึ้นของทุกๆ ปัญหาผิว


ควรเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าคงตัวต่อแสงแดด (Photostability)

ควรเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าคงตัวต่อแสงแดด ที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้คงประสิทธิภาพยาวนานตลอดวัน


เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)

เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดไม่ทำให้เกิดการอุดตัน และมีความน่าเชื่อถือ เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพการปกป้อง และคุมมัน

ทากันแดด ปริมาณไหนเหมาะสมที่สุด

ทาผลิตภัณฑ์กันแดดในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้า และบริเวณลำคอ ควรทาในปริมาณเหล่านี้
  • ผลิตภัณฑ์กันแดดเนื้อครีม : 2 ข้อนิ้วชี้ (โดยความกว้างของปิมาณคืออย่างน้อย 0.5 เซนติเมตร) อาจแบ่งทาที่ความยาวหนึ่งข้อนิ้ว x2 รอบ
  • ผลิตภัณฑ์กันแดดเนื้อฟลูอิด : 2 เหรียญสิบบาท และต้องเขย่าก่อนใช้ เป็นจำนวน 2 รอบ
ทุกคนที่อยากมีผิวสวยสุขภาพดี จะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกเช้า แม้แต่ในวันที่อยู่บ้านก็ต้องปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดให้ติดเป็นนิสัย หรือจะเรียกได้ว่า "ร้อยบำรุงไม่เท่าหนึ่งกันแดด" ก็คงไม่ผิด เพราะอย่างไรการป้องกันย่อมดีกว่าและทำได้ง่ายกว่าการแก้ไข และราคาค่าเสียหายก็จะน้อยกว่าอย่างแน่นอน เริ่มเร็วแก่ช้า เริ่มช้าแก่เร็ว นี่คือความสำคัญของผลิตภัณฑ์กันแดดที่ต้องจำให้ขึ้นใจสำหรับทุกคนและทุกวัย