ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญ
ในการกระตุ้นการเกิดสิว
น้ำมันบนผิวของคุณเรียกว่าซีบัม การผลิตซีบัมถูกควบคุมโดยฮอร์โมนที่เรียกว่าแอนโดรเจน อย่างเช่น เทสโทสเตอโรน (ใช่แล้ว! ในผู้หญิงก็มี) และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีอัตราส่วนของฮอร์โมนเหล่านี้ในร่างกายสูงกว่าฮอร์โมนอื่นๆ อย่างเช่น เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ผิวของคุณก็จะผลิตซีบัมออกมามากขึ้น
รูขุมขนถูกอุดตันด้วยซีบัมส่วนเกินและเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการเจริญเติบโตและเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวชนิด P. acne ซึ่งกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในผิวหนังส่งผลให้เกิดการอักเสบและรอยแดง
คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาผิวมันและสิว
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเกิดขึ้นในหลายช่วงของชีวิต:
สิวในช่วงวัยรุ่น
สิวมักเกิดในช่วงวัยรุ่น ในช่วงวัยแรกรุ่นไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะสูงขึ้น ในผู้ชาย ฮอร์โมนจะส่งผลต่อการพัฒนาลักษณะทางร่างกายภายนอกอย่าง ขนตามร่างกาย หนวดเคราบนใบหน้า กล้ามเนื้อ และมวลกระดูก ผู้หญิงมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ต่ำกว่าซึ่งจะกระตุ้นการเกิดขนบริเวณอวัยวะเพศและขนใต้รักแร้ อีกทั้งยังเพิ่มกล้ามเนื้อและมวลกระดูกด้วย นอกจากนั้น ฮอร์โมนเทสโทสโรนยังกระตุ้นการผลิตซีบัมในรูขุมขน
คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวก่อนการมีประจำเดือน
สำหรับผู้หญิงหลายคน การมีสิวก่อนและระหว่างมีประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ การศึกษาหนึ่งพบว่า "การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างรอบประจำเดือนมีบทบาทสำคัญในการเกิดสิว กว่า 85% ของผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่ มีปัญหาเกี่ยวกับสิวมากขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน" 1
คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวในช่วงก่อนมีประจำเดือน 85% ของผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่ มีปัญหาสิวเมื่อมีประจำเดือน
ทำไมถึงมีสิวขึ้นก่อนการมีประจำเดือน?
หนึ่งอาทิตย์ก่อนการมีประจำเดือนผิวของคุณจะผลิตซีบัมมากขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นจากความสมดุลของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน
- ในช่วงครึ่งแรกของการมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะมากขึ้นกว่าฮอร์โมนอื่น
- ในช่วงกลางๆ ของการมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะเริ่มสูงขึ้น
- ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนค่อนข้างคงที่ตลอดการมีประจำเดือน ดังนั้นเมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนของคุณลดลง ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนก็จะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นโปรดจำไว้ว่าฮอร์โมนที่ควบคุมการผลิตของซีบัมคือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
- ระดับของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นทำให้ผิวเกิดอาการบวมและนั่นทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ทั้งสิ่งนี้และการผลิตของซีบัมที่มากขึ้นขณะที่ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงอาจทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน
- สุดท้าย ในหนึ่งสัปดาห์ก่อนการมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง ทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง ทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าไปในร่างกายได้ ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเกิดสิวประจำเดือน
การตั้งครรภ์สามารถกระตุ้นการเกิดสิวได้
การตั้งครรภ์เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนสูง ในช่วงไตรมาสแรกอาจเกิดสิวเยอะและรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามผิวจะค่อยๆ ปรับสภาพดีขึ้น สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของระดับเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในระหว่างตั้งครรภ์
วัยก่อนหมดประจำเดือนคืออีกช่วงเวลาหนึ่งที่อาจทำให้เป็นสิว
ในช่วงวัยก่อนหมดประจำเดือนและวัยหมดประจำเดือนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคุณจะเริ่มลดลง นักวิจัยสังเกตว่าผู้หญิงที่ประสบปัญหาสิวในช่วงระหว่างวัยหมดประจำเดือนมักมีฮอร์โมนแอนโดรเจนในระดับปกติแต่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของปริมาณฮอร์โมนต่างๆ อาจกระตุ้นการผลิตซีบัมและก่อให้เกิดสิว
1Emerging Issues in Adult Female Acne (Zeichner et al., 2017)
การดูแล
สิวฮอร์โมน
ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นวิธีควบคุมการเกิดสิวที่ได้ผล
โดยสรุปแล้วสิวส่วนใหญ่เกิดจากฮอร์โมน แม้ว่าคุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงช่วงเวลาของชีวิตอย่างช่วงวัยแรกรุ่น ช่วงมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์และช่วงวัยหมดประจำเดือนได้ แต่คุณสามารถลดความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือใช้เทคนิคลดความเครียด เป็นต้น
การทำความสะอาดและดูแลผิวที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวได้ง่ายด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเป็นประจำ ประกอบกับการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เหมาะสม จะเข้ามามีบทบบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดสิว นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะจุด มากมายที่สามารถช่วยได้
แต่ถ้าสิวของคุณยังคงอยู่โดยเฉพาะก่อนช่วงมีประจำเดือน คงถึงเวลาต้องใช้การรักษาด้วยยาเพื่อคืนความสมดุลของฮอร์โมน
การรักษาด้วยยาที่มีผลต่อต้านแอนโดรเจนที่ผิวหนัง เรียกว่าการบำบัดด้วยฮอร์โมนต้านฤทธิ์แอนโดรเจน การบำบัดด้วยฮอร์โมนที่ได้ผลดีในการควบคุมสิวคงไม่มีวิธีใดดีไปกว่าการใช้ “ยาเม็ดคุมกำเนิด”ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน อีกทั้งยังต่อต้านแอนโดรเจนในร่างกาย นอกจากคุณสมบัติในการคุมกำเนิดแล้วยังช่วยลดการผลิตซีบัมโดยการลดการอุดตันรูขุมขนและการเกิดสิว
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดได้ หรือจริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าทุกคนจะอยากใช้ มีปัจจัยเสี่ยงที่การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจไม่เหมาะกับคุณ หากคุณเคยมีประวัติเกี่ยวกับลิ่มเลือด ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเกินเกณฑ์หรือสูบบุหรี่ โชคดีที่มีวิธีการรักษาอื่นๆ อีกมากมายและแพทย์ของคุณสามารถให้คำแนะนำที่ดีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรักษา แต่ถ้าคุณสามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดได้มันก็เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณา เพราะไม่เพียงแต่คุมกำเนิดเท่านั้นแต่ยังควบคุมการเกิดสิวอีกด้วย