สิวอุดตัน คืออะไร?
เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ การผลิตน้ำมันผิดปกติ ซึ่งอาจจะผลิตมากผิดปกติหรือองค์ประกอบของน้ำมันที่ผิดปกติ กับการแบ่งเซลล์ผิวบริเวณรูขุมขนมากผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันขึ้นในบริเวณรูขุมขน ผิวจึงนูนหนาขึ้นกว่าบริเวณอื่น แต่ไม่มีอาการอักเสบเมื่อไปสัมผัสโดนจึงไม่มีอาการเจ็บ รวมไปถึงไม่มีอาการปวด บวม แสบ แดง คันใด ๆ ร่วมด้วยสิวผด คืออะไร?
มีลักษณะเป็นเม็ดผดเล็ก ๆ อาจขึ้นมาเป็นผื่นแดง ๆ จำนวนมาก อาจพบอาการคัน แสบ ร่วมด้วย “สิวผด” เกิดจากการอุดตัน (แต่ไม่ใช่สิวอุดตัน) ภายในรูขุมขน มักพบได้บ่อยบริเวณหน้าผาก (ซึ่งเป็นบริเวณที่ไวต่อความผิดปกติหรือได้รับผลกระทบ/สัมผัสกับปัจจัยต่าง ๆ มากกว่าผิวบริเวณอื่น เช่น ผมหน้าม้า การสัมผัสกับยาสระผม ครีมนวด ทำให้มีสิ่งสกปรกจากผมเกาะสัมผัสกับหน้าผากอยู่ตลอดเวลา) และมักพบมากในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด (เพราะแสงแดดสามารถไปกระตุ้นต่อมเหงื่อ ทำให้เกิดการอุดตัน) แม้สิวผดจะเป็นเพียงสิวขนาดเล็ก (มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า) แต่มักมีอาการเห่อเป็นช่วง ๆ และหายไปได้เองในระยะเวลาไม่นาน มักจะเป็น ๆ หาย ๆ พบได้บ่อยในช่วงเวลากลางวันที่มีอากาศร้อนจัดสาเหตุของการเกิด สิวผด
- การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
- อากาศร้อน
ความแตกต่างระหว่างสิวผดและสิวอุดตัน
ความแตกต่างระหว่าง “สิวผด” และ “สิวอุดตัน” อาจพิจารณาได้จากตารางด้านล่างนี้
สิวผด |
สิวอุดตัน |
เม็ดผดขนาดเล็ก ๆ มักมีอาการแสบ คันร่วมด้วย |
การอุดตันเล็ก ๆ ทำให้ผิวไม่เรียบ แต่ไม่มีอาการแสบ บวม แดง คัน ร่วมด้วย |
มักเกิดจากเชื้อราไปทำปฏิกิริยากับต่อมไขมัน (ซึ่งมีอยู่หนาแน่บริเวณหน้าผาก) |
เกิดจากการผลิตน้ำมันและการแบ่งเซลล์ผิวผิดปกติ |
มักเห่อในช่วงที่มีอากาศร้อน |
(ไม่ขึ้นกับสภาพอากาศ) |
มักพบบริเวณหน้าผาก |
พบได้ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก |
กดออกไม่ได้ |
สามารถกดออกได้ |
หายเองได้เมื่อสภาพอากาศดีขึ้น |
ไม่หายเอง |
สรุปคือ “สิวผด” คือ การอักเสบของรูขุมขนที่เกิดจากเชื้อรา หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสิวเชื้อรา มีลักษณะเป็นผื่นเม็ดเล็ก ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 มิลลิเมตร) เกิดจากเชื้อรา เจริญเติบโตมากผิดปกติบริเวณรูขุมขน (hair follicle) ส่งผลให้เกิดการอักเสบเป็นตุ่ม ผดแดง ขนาดเล็กเห่อขึ้นมา โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนชื้น หรือช่วงที่ต้องทำกิจกรรมมากขึ้น เช่น ออกกำลังกาย และมักมีอาการคันบริเวณที่เป็นผื่น ซึ่งแตกต่างจากสิวอุดตันไม่ค่อยมีอาการคัน
วิธีการรักษาสิวผด
สาเหตุของ “สิวผด” เกิดจากเชื้อรา ดังนั้น ยาฆ่าเชื้อราจึงเป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวผด ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาทา และยารับประทาน โดยหากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรครูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา หรือสิวเชื้อรา การรักษามักเริ่มด้วยยารับประทาน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาทาการปฏิบัติตัวดูแลลดสิวผด
นอกจากการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์รักษาสิวแล้ว การปฏิบัติตัว/การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุของการเกิดสิวผดก็เป็นอีกปัจจัยร่วมสำคัญในการแก้ปัญหาสิว (รวมถึงสิวผด)- ไม่นอนดึก (เข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม) และนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำมาก ๆ แนะนำให้จิบทีละนิด แต่จิบบ่อย ๆ ในระหว่างวัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที หากเหงื่ออกแล้วสิวผดเพิ่มมากขึ้นแนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดซับเหงื่อที่ออกมาทันที (ไม่ปล่อยไว้นาน หรือไม่ปล่อยให้แห้ง)
- หลีกเลี่ยงอาหารที่พบว่ามักจะทำให้เกิดสิว เช่น ของทอด ของมัน ขนมขบเคียว แป้ง ของหวาน
- งดการสัมผัสใบหน้า ลูบคลำ (รวมถึงการสัมผัสใบหน้าจากเส้นผม หรือวัสดุอื่น ๆ) และลดการส่องกระจกบ่อย ๆ เพื่อลดความกังวล ซึ่งจะกระตุ้นให้อยากบีบหรือ แกะสิว
- ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำสะอาดอุณหภูมิปกติ เพียงวันละ 2 เวลา เช้าและก่อนนอน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่อ่อนโยน ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)