สิวอุดตัน ต้นตอของวงจรสิว?
สาเหตุของการเกิดสิวมาจาก 4 สาเหตุ
-
1.ต่อมไขมัน (sebum) ผลิตน้ำมันออกมามากผิดปกติ ซึ่งกระบวนการดังกล่าว เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม, การทานอาหารทอดที่อมน้ำมันมาก, สภาพอากาศ มลภาวะจาก PM 2.5 หรือแม้แต่ความเครียดสะสมก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน
2.ความผิดปกติในการผลัด และแบ่งเซลล์ของผิว
3.การอักเสบ
4.การติดเชื้อแบคทีเรีย และเสียสมดุลแบคทีเรียบนผิว
จุดเริ่มต้นของการเกิดสิว เกิดจากการแบ่งเซลล์บริเวณรูขุมขนที่มากผิดปกติ ทำให้ซากเซลล์เหล่านั้นอุดตันต่อมน้ำมันใต้ผิว ซึ่งกระบวนการภายในเหล่านี้นั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เรียกว่า ‘ไมโครคอมิโดน (microcomedone)’ ซึ่งเป็นระยะแรกของวงจรสิว หากปล่อยไว้จะพัฒนากลายเป็นสิวอุดตันรูปแบบต่าง ๆ เช่น สิวอุดตันหัวขาว (whitehead acne) แล้วถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียอีก ก็จะกลายเป็นสิวอักเสบ (inflammatory acne) จากนั้นก็จะเกิดรอยแดงจากสิว แล้วกลายเป็นรอยดำจากสิว (ance scar) ในที่สุด
วิธีป้องกัน และลดโอกาสในการเกิดสิวอุดตัน
การป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดสิวอุดตันมีหลากหลายวิธีมาก เราจึงแบ่งการดูแลรักษาสิวอุดตันเป็น 2 ทางหลักๆ
1.ดูแลผิวหน้าง่าย ๆ ด้วยตนเอง
- - ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
การทำความสะอาดผิวหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการดูแลผิวให้ห่างไกลจากปัญหาสิว ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสำหรับการดูแลปัญหาสิว ตั้งแต่การใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาด เช่น โฟมล้างหน้า และใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนสุดท้าย
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil-free) และเป็นสูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non comedogenic) ความมันส่วนเกินบนใบหน้าเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้ที่มีปัญหาสิวมักเป็นคนที่มีผิวมันหรือผิวผสม ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ปราศจากน้ำมัน และผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non comedogenic) ซึ่งอาจสังเกตข้อมูลที่ระบุบนฉลาก ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันได้
- หลีกเลี่ยงมิให้ผิวต้องเผชิญกับและมลภาวะ เช่น แสงแดด, ฝุ่นละออง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า (sebum) เพิ่มมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ไม่แกะหรือจับสิว การบีบเค้น การเกา การกระทำเหล่านี้เป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองผิว และอาจจะทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายได้เร็วขึ้น
2.การรักษาด้วยการใช้ยาทา
หลายคนมักจะซื้อยารักษาสิว โดยเฉพาะชนิดทา เช่น ครีมรักษาสิว เจลแต้มสิวอักเสบ (ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย) ครีมที่ละลายหัวสิว ยาแต้มสิวอักเสบ ยารักษาสิวหัวช้าง เป็นต้น ซึ่งยารักษาสิวเหล่านี้ หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยา แต่ไม่ควรเลือกซื้อจากข้อมูลที่ได้จากอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ควรจะปรึกษาเภสัชกรในการเลือกใช้ยาที่เหมาะสม เพื่อการดูแลสิวอย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น การดื้อยา ปัญหาการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องโดยเฉพาะยากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งส่วนผสมของยารักษาสิวอุดตันที่เป็นที่นิยม ตัวอย่างเช่น
Effaclar Serum ดีอย่างไร?
Effaclar Serum เซรั่มที่ช่วยจัดการถึงต้นตอของปัญหาสิวอุดตัน
เข้าจัดการสิวอุดตัน ด้วยความอ่อนโยนต่อผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ด้วยการผสาน 3 โมเลกุลทางการแพทย์ อย่าง
1. LHA จัดการสิวอุดตัน เผยผิวใสที่ห่างไกลรอยดำรอยแดงจากสิว
2. Salicylic Acid สลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน ลดการสะสมของแบคทีเรียที่ต้นตอ
3. Glycolic Acid เป็น AHA ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่สุด ลดความรุนแรงของสิวอุดตันที่อาจปะทุรุนแรงขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ยังมี Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 ช่วยปลอบประโลมผิวและยังเป็นสูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)
ปราศจากสารกันเสียพาราเบนและสารให้สีอีกด้วย พิสูจน์แล้วด้วยผลทดสอบทางคลินิกภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
หลังจากใช้เอฟฟาคลาร์ เซรั่ม วันละครั้งก่อนนอนต่อเนื่อง 44 วัน พบว่าสิวอุดตันลดลง 52%*
^ผิวชั้นนอก
*ผลการทดสอบทางคลินิกด้วยวิธี Counting of the lesions ในอาสาสมัคร 40 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 44 วัน โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล ประเทศฝรั่งเศส เมื่อมกราคม 2021
จัดการปัญหาสิวอุดตันที่ต้นตอด้วย EFFACLAR SERUM
แนะนำ NIGHT SKINCARE ROUTINE สำหรับการจบปัญหาสิวที่ต้นตอด้วย
Effaclar Serum
1. ควรใช้ร่วมกับมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีสารผลัดเซลล์ เช่น “โทเลเรียน อัลตร้า/อัลตร้า ไลท์” (Toleriane Ultra / Ultra Light) ครีมบำรุงผิว สูตรปราศจากสารกันเสียแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น พร้อมปลอบประโลมผิว และเสริมปราการปกป้องผิว (Skin Barrier) ให้ชุ่มชื้นดูสุขภาพดี
2. ถ้าหากยังมีอาการระคายเคือง แนะนำให้ทามอยซ์เจอไรเซอร์ (Toleriane Ultra Light) ก่อน แล้วจึงทา Effaclar Serum ตามทันที โดยไม่ต้องรอให้มอยซ์เจอไรเซอร์ซึมลงสู่ผิว
3. หากทำแบบข้อ 2 แล้วยังรู้สึกมีอาการระคายเคือง แนะนำให้ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เป็นประจำทุกคืนร่วมกับการใช้ Effaclar Serum วันเว้นวัน เมื่ออาการะคายเคืองลดน้อยลง จึงปรับมาใช้ “เอฟฟาคลาร์ เซรั่ม” ร่วมด้วยทุกคืน
พิสูจน์ผลลัพธ์ด้วยตัวเอง ง่ายๆ ที่บ้าน แค่มี SPOTSCAN
วัดระดับความรุนแรงของสิวก่อนใครง่ายๆ ได้ที่ SPOTSCAN
3 ขั้นตอนง่ายๆในการใช้ SPOTSCAN